ททท สำรวจ 10 สถานที่ ท่องเที่ยว ชาวต่างชาตินิยมเที่ยว

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำรวจความคิดเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติในหัวข้อ “Your amazing places in Thailand that always amaze you” ค้นหาสถานที่ยอดนิยมในเมืองไทย 100 อันดับ ในสายตาของนักท่องเที่ยวจาก 69 ประเทศ

อันดับที่ 1 หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ที่ประกอบด้วย 6 เกาะ คือเกาะพีพีเล เกาะพีพีดอน เกาะยูงเกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะนอก และเกาะบิดะใน แต่ละเกาะมีหาดทรายสวยและน้ำทะเลใส จนสามารถคว้าสุดยอดที่เที่ยวของเมืองไทย

อันดับที่ 2 เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ได้ชื่อว่าเป็น”เกาะสวรรค์กลางทะเลอ่าวไทย”เนื่องจากมีแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกขนาดใหญ่ เป็นจุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลกทั้งยังมีหาดทรายขาวสะอาดและสงบเงียบ จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ

อันดับที่ 3 หาดพัทยา จ.ชลบุรี แหล่งท่องเที่ยวที่รองรับนักท่องเที่ยวปีละหลายล้านคน ชายหาดแบ่งเป็น 3 ช่วง หาดพัทยาเหนือ เป็นที่ตั้งของปราสาทสัจธรรม อัลคาซาร์และทิฟฟานี่โชว์ พัทยากลางเป็นย่านธุรกิจสถานบันเทิง มีหาดทรายกว้าง ส่วนพัทยาใต้เป็นย่านราตรีที่ขึ้นชื่อ

อันดับที่ 4 อัลคาซาร์ คาบาเรต์ จ.ชลบุรี จัดเป็นการแสดงคาบาเรต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย นักท่องเที่ยวจะพบกับดนตรี เสื้อผ้า การเต้น ระบบแสง สี เสียง ที่งดงามตระการตาควบคุมการแสดงด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย ภายใต้โรงละครซึ่งจุผู้คนได้กว่า 1,000 คน ต่อรอบ

อันดับที่ 5 หาดป่าตอง หาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของ จ.ภูเก็ต เนื่องด้วยลักษณะอ่าวที่มีความโค้งมากมีชายหาดยาวถึง 9 ก.ม. และเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง ทั้งโรงแรม ร้านอาหารร้านขายอุปกรณ์กีฬาทางน้ำ ไว้บริการนักท่องเที่ยว ทำให้หาดป่าตองเป็นหาดที่มีผู้นิยมมาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่ง

อันดับที่ 6 เกาะเสม็ด จ.ระยอง เกาะในทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออก เนื้อที่ 3,125 ไร่ ประกอบไปด้วย หาดทรายแก้ว อ่าวน้อยหน่า อ่าวลูกโยน อ่าวไผ่ อ่าวทับทิม อ่าวลุงดำ อ่าวตะวัน อ่าววงเดือน อ่าวพร้าว ฯลฯ

อันดับที่ 7 อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา ประกอบด้วย เกาะบอน เกาะบางู เกาะสิมิลัน เกาะปายู เกาะห้า เกาะเมียง เกาะปาหยัน เกาะปายัง และเกาะหูยงได้สมญานามว่า “สวรรค์ของนักดำน้ำ”เพราะท้องทะเลยังมีความอุดมสมบูรณ์มาก

อันดับที่ 8 ตลาดนัดจตุจักร แหล่งชอปปิ้งชื่อดังที่เปิดมานานกว่า 60 ปี เป็นแหล่งรวมสินค้านานาชนิดจากทั่วทุกมุมของประเทศไทย ทั้งยังเป็นตลาดส่งออกสินค้าพื้นบ้านของไทยไปต่างประเทศปีละเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันมีร้านค้าอยู่กว่า 8,000 ร้าน จำหน่ายทั้งเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้านสัตว์เลี้ยง ของเก่า ของสะสม หนังสือ สินค้ามือสอง ต้นไม้และอุปกรณ์แต่งสวน รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม จนเป็น “ตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก

อันดับที่ 9 อ่าวมาหยา บนเกาะพีพีเล เกาะขนาดใหญ่อันดับ 2 ของหมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เวิ้งอ่าวรูปพระจันทร์เสี้ยวโอบล้อมด้วยเขาหินปูน จุดเด่นอยู่ที่หาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลสวยใสเหมาะแก่การเดินเล่นชมวิว และถ่ายรูปคู่กับน้ำทะเลสีมรกต

อันดับที่ 10 หาดจอมเทียน จ.ชลบุรี ตั้งอยู่ทางทิศใต้ ห่างจากตัวเมืองพัทยา 4 ก.ม. ชายหาดที่มีความยาวถึง 6 ก.ม. มีถนนร่มรื่นเลียบตลอดแนวชายหาด มีสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืนน้อยเมื่อเทียบกับหาดพัทยา จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มากันเป็นครอบครัว นอกนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำให้เลือกเล่นอีกหลายอย่าง ทั้งบานาน่าโบ๊ต วินด์เซิร์ฟ เจ็ตสกี สกีน้ำ และพาราเซลลิ่ง

สถานที่ ท่องเที่ยว ที่สวยน่าสัมผัส 10 แห่ง ในประเทศไทยมีโอกาสต้องไป

หาดป่าตอง
     หาดป่าตอง อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตไป ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 15 กิโลเมตร นับว่าเป็น สถาน ที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย หาดป่าตองมีชื่อเสียงมากที่สุดของภูเก็ต เป็นชายหาดสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ร้านดำน้ำ ร้านขายอุปกรณ์กีฬาทางน้ำ และอื่น ๆ อีกมากมาย ไว้คอยบริการแก่นักท่องเที่ยว ด้วยชายหาดที่มีความยาวกว่า 4 กิโลเมตร และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน หาดป่าตองจึงเป็น สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยที่มีผู้นิยมมาเยือนมากที่สุด
     หาดป่าตองถูกถล่มโดยคลื่นสึนามิในเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547ปัจจุบัน  
     หาดป่าตองเป็นหนึ่งในชายหาดสำคัญที่ได้รับการติดตั้งระบบเตือนภัย สึนามิ มีการซักซ้อมการอพยพและการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอยู่อย่างสม่ำ เสมอ เป็นระยะๆ


อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
     อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ได้รับการ ยกย่องว่าเป็นหมู่เกาะที่มีความสวยงามทั้งบนบกและใต้น้ำ มีปะการังที่สวยงามหลายชนิด สามารถดำน้ำได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก สามารถพบปลาที่หายาก เช่น วาฬ โลมา ปลาไหลมอเร่(moray) ช่วงเดือนที่น่าเที่ยวมากที่สุด คือช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนเมษายน นอกจากนั้นจะประกาศปิดเกาะ


หมู่เกาะพีพี
     อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ตั้ง อยู่ในท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ใน ทะเลอันดามันด้านทิศตะวันตกของภาคใต้ สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่มีลักษณะสวยงามตามธรรมชาติ รอบ ๆ เกาะมีปะการัง กัลปังหา ทิวทัศน์ใต้ทะเลที่งดงาม และเอกลักษณ์ทางธรรมชาติคือภูเขาหินปูนที่มีหน้าผาเป็นชั้น ๆ ถ้ำที่สวยงาม ตลอดจนชายหาดยาวสะอาด สุสานหอย 40 ล้านปี ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 389.96 ตารางกิโลเมตร หรือ 243,725 ไร่


เกาะสมุย
     เกาะสมุย เดิมเกาะสมุยมีชื่อเสียงใน ฐานะเป็นแหล่งปลูกมะพร้าว ปัจจุบันเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศที่ชาว ต่างประเทศนิยมเดินทางมาท่อง เที่ยว มีร้านค้า โรงแรม และสถานบันเทิงต่าง ๆ มากมาย หาดที่เป็นที่เชิดหน้าชูตาของคนเกาะสมุย คือ หาดเฉวง บริเวณชายหาดยาวประมาณ 7 กิโลเมตร ถ้าได้ลงมือเดินตั้งแต่ต้นหาด จนกระทั่งถึงปลายหาดจะใช้เวลาประมาณถึง 2 ชั่วโมง เพราะการเดินบนผืนทรายไม่เหมือนการเดินบนพื้นดินปรกติ หาดที่มีความสวยงามเป็นอันดับรองลงมา คือ หาดละไม หาดเชิงมนต์ แหลมโจรคร่ำ หาดท้องยาง หาดหน้าทอน หาดพังกา และหาดตลิ่งงาม นอกจากธรรมชาติที่สวยงามของอำเภอเกาะสมุยแล้ว ยังมีกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก คือ "สปา" หรือการดูแลรักษาสุขภาพโดยการใช้น้ำบำบัด เช่น การอาบ-การแช่น้ำแร่หรือน้ำร้อน


เกาะช้าง
      เกาะช้าง เป็น สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่เกาะที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทยรองจากเกาะภูเก็ต เกาะช้างมีโรงแรมและรีสอร์ตมากมาย ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมาดำน้ำ และด้วยภูมิประเทศที่มีป่าเขาอยู่กลาง เกาะ นักท่องเที่ยวจึงสามารถท่องเที่ยวแบบเดินป่า ขี่ช้างก็ได้เช่นกัน


พัทยา
     เมืองพัทยา เป็นเขตปกครองพิเศษ เขตหนึ่งที่ตั้งตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ เมืองพัทยา ฉบับ วันที่ 29 พฤจิกายน พ.ศ. 2521 (เทียบเท่าเทศบาลนคร) ในเขตจังหวัดชลบุรี จัดเป็น สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย เมืองท่องเที่ยวนานาชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลกโดยเฉพาะหาดทราย ที่ ทอดยาวไปตามแนวชายฝั่งทะเล จัดได้ว่า สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย มีความสวยงามอีก แห่งของประเทศไทย อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 140 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนฝั่งทะเลทางทิศตะวันออกของอ่าวไทย ซึ่งพัทยาแบ่งเป็น 4 ส่วนได้แก่ พัทยาเหนือ พัทยากลาง พัทยาใต้ และหาดจอมเทียน


หัวหิน
     หัวหิน เป็นอำเภอที่ทุกคนรู้จักกันเป็น อย่างดีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยเดิมมีชื่อว่า "บ้านสมอเรียง" หรือ "บ้านแหลมหิน" ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) ได้ทรงสร้างวังไกลกังวลเพื่อประทับพักผ่อนในฤดูร้อน และปัจจุบันวังไกลกังวลนั้นเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์องค์ ปัจจุบัน


อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
     อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีพื้นที่ ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอดอยหล่อ อำเภอจอมทองและอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน มีดอยอินทนนท์ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ในวันที 13 เดือนมิถุนายน พุทธศักราช 2521 คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ได้ประกาศให้ดอยอินทนนท์เป็นอุทยานแห่งชาติ


เกาะเต่า
     เกาะเต่า มีพื้นที่อยู่ใน ฝั่งของทะเลอ่าวไทย และอยู่ในเขตการปกครองของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลักษณะของ สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย เกาะเต่า จะมีลักษณะที่โค้งเว้า เหมือนกับเมล็ดถั่ว ซึ่งเกาะเต่า จะตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ เกาะพงัน จ.สุราษฏร์ธานี ระยะทางจากเกาะพงันถึงเกาะเต่า ประมาณ 45 กิโลเมตร นอกจากนี้ สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ในบริเวณใกล้เคียงกับเกาะเต่ายังมีเกาะนางยวนซึ่ง เป็นเกาะเล็กๆ ด้านตะวันตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเต่า มีสันทรายเชื่อมต่อกับเกาะเต่าใน ลักษณะเหมือนทะเลแหวก เป็นแหล่งดำน้ำชมปะการังอีกแห่งหนึ่ง

เกาะตะปู
     เกาะตะปู ตั้งอยู่ในบริเวณทะเลด้านนอก ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา คิดเป็นระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร จากที่ทำการอุทยานฯตามลำคลองเกาะปันหยีจังหวัดพังงา สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย อยู่ทางด้านเหนือใน เวิ้งอ่าวของเกาะเขาพิงกัน เกาะตะปู มีลักษณะเป็นเกาะเดี่ยว รูปร่างคล้ายตะปู มีศัพท์เฉพาะทางธรณีวิทยาว่า เกาะหินโด่ง (Stack) การชมเกาะตะปูต้องชมในระยะไกลจากเรือ หรือจากสันดอนของเกาะเขาพิงกัน ไม่สามารถขึ้นไปบนเกาะได้

มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2011 ร่วมกระตุ้นท่องเที่ยวพังงา เก็บตัว 4 วันริมทะเลอันดามัน แคนทารี บีช เขาหลัก

     แคนทารี บีช เขาหลัก ต้อนรับ 30 สาวงามผู้เข้าประกวดมิสไทยแลนด์ เวิล์ด 2011 เก็บตัว 4 วันริมทะเลอันดามัน พร้อมร่วมทำกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ขณะที่ ผอ.กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ของเกษมกิจ โฮเทลส์ เจ้าของสถานที่ยิ้มรับสาวๆ ชี้กิจกรรมนี้จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเขาหลักให้ดีขึ้น เป็นการตอกย้ำถึงความสวยงามของสถานที่ อีกทั้งยังทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคม และระลึกถึงเหตุการณ์สึนามิด้วย ด้านนายรัก ผจก.ทั่วไปโรงแรม เผยรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับคณะสาวๆ พร้อมเตรียมสถานที่ และกิจกรรมต่างๆ มากมายไว้รอรับ

     นายภูมิภัทร นาวานุเคราะห์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรมในเครือเกษมกิจ โฮเทลส์ กล่าวว่า ทางโรงแรมแคนทารี บีช เขาหลัก จ. พังงายินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของการประกวดมิสไทยแลนด์ เวิล์ด 2011 ในปีนี้ ซึ่งทางโรงแรมในเครือของเราก็ได้เคยร่วมสนับสนุนการประกวดนี้มาแล้ว 2 ครั้งทั้งแคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ และ เคป พันวา ที่ภูเก็ต ครั้งนี้คณะสาวงามผู้เข้าประกวดมิสไทยแลนด์ เวิล์ด 30 คนที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย จะมาทำกิจกรรมเก็บตัวกันที่แคนทารี บีช เขาหลัก ตั้งแต่วันที่ 21 – 24 กรกฎาคมนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สวยงาม และเชื่อว่าทุกสาวงามจะได้ความประทับใจกลับไป

“การประกวดมิสไทยแลนด์ เวิล์ด เป็นอีกหนึ่งเวทีประกวดที่มีชื่อเสียง มีการติดตามจากผู้ชมเป็นจำนวนมาก ซึ่งการมาเก็บตัวที่อ.เขาหลัก จ.พังงา ก็ถือเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวด้วย ซึ่งหลังจากเหตุการณ์สึนามิที่ผ่านมา ปัจจุบันเขาหลักมีสภาพกลับฟื้นคืนมาเหมือนเดิมแล้ว ทุกๆ สถานที่ ทุกๆ ชายหาดทุกๆ เกาะ ยังคงความสวยงามอยู่ อีกทั้งบางแห่งยังสวยงามกว่าเดิมอีกด้วย ที่สำคัญเขาหลักยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย การเดินทางก็สะดวก ใช้เวลาจากสนามบินภูเก็ตเพียง 50 นาทีเท่านั้น จึงเป็นการดีที่จะมีการทำประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มนักท่องเที่ยวได้รับทราบในเรื่องนี้มากขึ้น รู้สึกยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว จ.พังงา” นายภูมิภัทร กล่าว

ด้าน นายรัก ชัยกุลเสรีวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมแคนทารี บีช เขาหลัก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานที่สำหรับทำกิจกรรมในการเก็บตัวนั้น ทางโรงแรมได้เตรียมห้องพักอย่างดีไว้รอรับ อีกทั้งทางโรงแรมยังมีชายหาดขาวที่ใช้สำหรับทำกิจกรรมได้อย่างเต็มที่ มีกีฬาทางน้ำหลายชนิด ซึ่งเหล่าสาวงามที่มาเก็บตัวจะได้ความประทับใจกลับไปอย่างแน่นอน

“ตลอดการเก็บตัวทั้ง 4 วัน นอกจากเหล่าผู้เข้าประกวดจะทำกิจกรรมเก็บตัวที่โรงแรมแคนทารี บีช เขาหลัก แล้ว ยังมีการทำกิจกรรมอื่นๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว จ.พังงา ในสถานที่ต่างๆ พร้อมยังจะไปเยี่ยมโรงเรียน และ ทำกิจกรรมร่วมกับเหล่าเด็กๆ ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการถ่ายทำวีทีอาร์กิจกรรมของกองประกวด และกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกมากมาย” นายรัก กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โรงแรมแคนทาร บีช เขาหลัก โทร. 0-2233-3433, 076-584-700 หรือที่ www.kantarycollection.com

International TASTE 2011 Amazing ณ พาร์ค พารากอน 22 ก.ค. 54

International TASTE 2011 Amazing สัมผัสเมนูรสเลิศทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติ คัดสรร ความอร่อยกว่า 30 ร้านขึ้นชื่อทั่วเมืองไทย ทั้งอาหารไทยจีนเกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม อิตาเลียน และอเมริกัน ทุกๆ จาน ทุกๆ สัญชาติล้วนปรุงจากวัตถุดิบชั้นดี.. ที่วันนี้คนไทย ปลูกเอง ผลิตเองได้แล้ว อาทิ ข้าวญี่ปุ่น หมูคุโรบูตะ มอซซาเรลล่าชีส ลิ้มลองความอร่อยแบบ International ที่ไม่ธรรมดาในราคาย่อมเยา

คุณจะเพลิดเพลินไปกับสีสัน หลากหลายความบันเทิงรูปแบบต่างๆ : เกม การแสดงดนตรีสด และบูธดีเจ พร้อมกิจกรรมมากมายและร่วมสนุกกับ International Cooking Show ทั้งไทยและเทศจากกูรูด้านอาหาร Celebrity Chef อาทิ เชฟเออเวย์จาก Le Beaulieu, เชฟแพม-พิชญา Winner of Asia Youth Hope Cooking Contest 2011, เชฟเนตร-เนตรอำไพ จาก Triplets French Brasserie เชฟนก-ขวัญชัย จาก Thann Restaurant รวมถึง นาวิน ตาร์, ป้อง-ณวัฒน์, โป๊ป-ธนวรรธน์และ คุณธีรกิตติ์ จารุจินดา Mixologist ชื่อดัง

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดพิธีเปิดงาน เทศกาลงานชิม อร่อยทั่วไทย อร่อยทั่วโลก หรือ International TASTE 2011 Amazing Thailand (22-24 กรกฎาคม 2554) โดยมี คุณเพ็ญสุดา ไพรอร่าม รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงาน ในวันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม 2554 เวลา 17.00 น. ณ พาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน

กำหนดการ

วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม 2554
11.00 พนักงานแจกหนังสือคู่มือ และแจกแบบสอบถามผู้เข้าร่วมงาน
12.00 การแสดงดนตรีแจ๊ส
13.00 เล่นเกม / กิจกรรมบนเวที ช่วงที่ 1
15.00 ซ้อมพิธีเปิด
17.00 พิธีเปิดอย่างเป็นทางการ
18.00 การแข่งขันทำอาหารระหว่าง Celebrity chef และ TV star
18.30 การแสดงร้องเพลงจากเวที Coke Music Award 2010
19.00 เล่นเกม / กิจกรรมบนเวที ช่วงที่ 2
20.00 การเปิดเพลงโดยดีเจ
20.30 จับรางวัลผู้โชคดี
21.00 จบงาน

วิหคแห่งท้องทะเล สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล

สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ขอเชิญชวนเด็กๆ และครอบครัวมารู้จักกับวิหคแห่งท้องทะเล หรือปลากระเบน ปลากระดูกอ่อนที่พบได้ทั้งในน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำทะเล มีรูปร่างที่แบนราบ และมีอาวุธป้องกันตัวที่เรียกว่า “เงี่ยง” ตรงส่วนหางซึ่งมีลักษณะคล้ายฟันเลื่อยและมีพิษ แต่ลักษณะนิสัยที่แท้จริงของปลากระเบนนั้นเป็นปลาที่มีนิสัยสันโดษ รักสงบ มักชอบนอนนิ่งๆ อยู่บนพื้นทราย หรือซ่อนตัวอยู่ใต้โขดหิน ไม่ทำอันตรายต่อนักดำน้ำ แต่จะป้องกันตนเองเมื่อเกิดอาการตกใจและหวาดกลัว ท่าว่ายน้ำของปลากระเบนคล้ายนกที่กำลังโบยบิน จึงได้ชื่อว่าเป็น “วิหคแห่งท้องทะเล”

ปลากระเบน @สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล


พบกับกิจกรรมใหม่ของสยาม โอเชี่ยน เวิร์ล “Ray Feeding” กิจกรรมให้อาหารปลากระเบนด้วยมือเปล่าอย่างใกล้ชิด พร้อมทำความรู้จักกับเหล่าปลากระเบนหลากหลายสายพันธุ์ ได้แก่

ปลากระเบนหลังดำ ปลากระเบนยักษใหญ่ใจดีที่มักอาศัยอยู่บริเวณใกล้ฝั่งอินโดแปซิฟิก และอาศัยอยู่ตามพื้นทะเล บริเวณปากแม่น้ำและแนวปะการัง ซึ่งเจ้าตัวนี้จะชอบกินหอยสองฝา ปู และปลาตัวเล็กๆ

ปลากระเบนน้ำตาล พบได้บริเวณน่านน้ำเขตร้อนอินโดแปซิฟิก มักชอบซ่อนพรางตัวอยู่ใต้พื้นทรายน้ำตื้นจนถึงแนวปะการัง คอยซุ่มจับกุ้งและปูที่ซ่อนอยู่ตามพื้นทราย กินเป็นอาหาร

ปลากระเบนทองจุดฟ้า เจ้าตัวนี้มีหน้าตาละม้ายคล้ายมนุษย์ต่างดาวเพราะมีจุดสีฟ้าแปลกตาและมีดวงตาโปนโตอยู่บแผ่นหลัง พบมันได้ในเขตน้ำขึ้นน้ำลงถึงระดับความลึก 30 เมตร ซึ่งมันจะชอบหลบซ่อนตัวอยู่ตามถ้ำเวลากลางวัน และพร้อมออกหากินเวลากลางคืน อย่างปราดเปรียว

ปลากระเบนธง เจ้าตัวนี้มีลักษณะเด่นคือ มีแผ่นหนังคล้ายชายธงยื่นออกมาบริเวณหาง พบได้บริเวณน่านน้ำเขตร้อนอินโดแปซิฟิก แต่บางครั้งก็ชอบเข้ามาอาศัยบริเวณปากแม่น้ำ

ทั้งนี้ สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล จัดให้อาหารปลากระเบนวันละ 3 รอบ ได้แก่ 11.00-11.15 น. / 14.00-14.15 น. และ 16.15-16.30 น. ณ สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ชั้น บี 1-บี 2 ศูนย์การค้า สยามพารากอน กรุงเทพฯ สอบถามโทร. 0-2687-2000

เมืองไทย 360 องศา คุณภาพมาตรฐานการ ท่องเที่ยว ระดับสากล 22-24 ก.ค. 54 MCC HALL ชั้น 4 เดอะมอลล์ บางกะปิ

กรมการท่องเที่ยวกำหนดจัดงาน “เมืองไทย 360 องศา คุณภาพมาตรฐานการท่องเที่ยวระดับสากล” ขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 ก.ค. 54 เวลา 11.00-20.00 น. ณ MCC HALL ชั้น 4 เดอะมอลล์ บางกะปิ เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยว และเพื่อประชาสัมพันธ์ตราสัญลักษณ์มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย

นายสุพล ศรีพันธุ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า กรมการท่องเที่ยว มีภารกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ในการพัฒนาและจัดทำมาตรฐานการบริการด้านการท่องเที่ยว และแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งสนับสนุนการประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ให้อยู่ในระดับมาตรฐาน เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ด้วยภารกิจดังกล่าว กรมการท่องเที่ยวจึงจัดงาน “เมืองไทย 360 องศา คุณภาพมาตรฐานการท่องเที่ยวระดับสากล” เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยว และเพื่อประชาสัมพันธ์ตราสัญลักษณ์มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย (รูปช้างชูงวงเริงร่า) สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย

- การออกบูธสถานประกอบการธุรกิจด้านการท่องเที่ยวกว่า 100 บูธ
- การฟังเสวนาวิชาการในหัวข้อ “มาตรฐานการท่องเที่ยวไทยกับการเปิดเสรีบริการภาคการท่องเที่ยว” หัวข้อ “ฮาลาลกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว” และ หัวข้อ “IT กับการพัฒนาชุมชนท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน”
- นิทรรศการเสริมความรู้ การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย และการแข่งขันตำส้มตำ ทำชาชัก และทำเมนูยำ
- Talk Show เมืองไทยมีอะไรน่าเที่ยว โดยอาจารย์จตุพล ชมพูนิช
- มินิคอนเสิร์ตเพลงลูกทุ่ง และเพลงสตริง จากค่ายเพลงยักษ์ใหญ่

นอกจากนี้แล้วยังมีกิจกรรมเล่นเกมแจกของรางวัลต่างๆ อีกมากมาย จึงขอเชิญนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปร่วมงาน “เมืองไทย 360 องศา คุณภาพมาตรฐานการท่องเที่ยวระดับสากลในระหว่างวันที่ 22 - 24 กรกฎาคม 2554 เวลา 11.00 - 20.00 น. ณ MCC HALL ชั้น 4 เดอะมอลล์ บางกะปิ กรุงเทพฯ เข้าชมฟรีตลอดงาน สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

กรมการท่องเที่ยว โทร. 02-215 8848 ,02-219 4010 - 17 ต่อ 331, 332, 501, 502

ปี 2555 ททท. ต่อยอดแคมเปญ เที่ยวหัวใจใหม่ เมืองไทยยั่งยืน

ททท. แถลงแผนการตลาดการท่องเที่ยว (MAP) ประจำปี 2555 ต่อยอดแคมเปญ“เที่ยวหัวใจใหม่ เมืองไทยยั่งยืน”เจาะตลาดในประเทศ ส่วนตลาดต่างประเทศยังคงใช้แคมเปญ “Amazing Thailand” พร้อมมุ่งรักษาคุณค่าทางการท่องเที่ยว และความประทับใจเป็นจุดแข็งที่เหนือคู่แข่งขัน

1 กรกฎาคม 2554 ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี นายวิชัย ศรีขวัญ ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในพิธีแถลงแผนการตลาดการท่องเที่ยวประจำปี 2555 (Marketing Action Plan : MAP) โดยมี นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการ ททท. กล่าวแถลง พร้อมทั้ง กรรมการ ททท. คณะผู้บริหาร ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานต่างประเทศ และสำนักงานในประเทศ ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน เข้าร่วมงาน

โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ได้แถลงแผนการตลาดการท่องเที่ยวประจำปี 2555 ดังนี้

ททท. ได้ประเมินสถานการณ์ที่เป็นตัวแปรทั้งด้านลบและบวกต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในช่วงปี 2554 - 2555 ภายหลังประสบเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบในด้านต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ เช่น พิบัติภัยธรรมชาติ ภาวะการณ์ทางการเมือง รวมถึงการเปลี่ยนผ่านขั้วเศรษฐกิจโลกจากซีกตะวันตกสู่กลุ่มประเทศเศรษฐกิจใหม่ในเอเชีย (รัสเซีย อินเดีย จีน อินโดนีเซีย หรือ RICHI) ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าที่อยู่ใกล้ การเร่งตัวเข้าสู่ระบบภูมิภาควิวัฒน์ของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN ECONOMIC COUNTRIES - AEC) ความก้าวหน้าในการพัฒนาเครื่องมือและเทคโนโลยีในโลกดิจิตอลที่สามารถใช้ประโยชน์ในการสร้างภาพลักษณ์เพื่อตอบสนองความต้องการแก่ผู้บริโภค

ดั้งนั้นททท. จึงปรับแนวคิดสู่การตลาดสมัยใหม่ที่มีผู้บริโภค คือ นักท่องเที่ยวเป็นศูนย์กลาง ค้นหาความปรารถนาที่อยู่ในใจนักท่องเที่ยว แปรสู่การสร้างสรรค์สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวให้โดนใจ และมีคุณค่าตรงกับที่นักท่องเที่ยวต้องการ

สำหรับยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว ปี 2555 ของ ททท. ได้มุ่งเน้นการสร้างสมดุลในมิติต่าง ๆ โดยเฉพาะมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งความสมดุลในมิติมูลค่าที่ประเทศไทยได้รับกับคุณค่าที่ส่งมอบเป็นการตอบแทน เพื่อคืนกลับให้กับนักท่องเที่ยว โดยจะดำเนินงานภายใต้ 4 ยุทธศาสตร์ ดังนี้
1. ตอกย้ำภาพลักษณ์ “ทรงคุณค่า”
2. ต่อยอดความทันสมัยด้านการตลาดและความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแห่งโลกดิจิตอล
3. สานต่อแนวคิดเพิ่มมูลค่าและคุณค่าจากนวัตกรรม
4. ให้ความสำคัญกับความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของภาคีทุกภาคส่วน

ทั้งนี้ ททท. ได้ประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเมื่อสิ้นปี 2554 ประมาณ 18 - 18.3 ล้านคน คิดเป็นรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 7 แสนล้านบาท ส่วนเป้าหมายปี 2555 ททท. กำหนดเป้าหมายจำนวนรายได้ของตลาดต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 7.6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 9 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 19.5 ล้านคน

ด้านการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. จะยังคงใช้แคมเปญ “Amazing Thailand : Always Amazes You” สำหรับตลาดต่างประเทศ เพื่อเป็นการยืนยันที่จะส่งมอบคุณค่า ความประทับใจ และประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายให้นักท่องเที่ยวทุกครั้งที่มาเยือน

ส่วนตลาดนักท่องเที่ยวคนไทย ยังคงสานต่อแนวคิดที่มุ่งสร้างกระแสให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ด้วยการต่อยอดแคมเปญ “เที่ยวหัวใจใหม่ เมืองไทยยั่งยืน” ผ่านสารหลัก 3 ประเด็น คือ สำนึก ด้วยกัน และเข้าใจ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดจิตสำนึกรัก หวงแหน และภูมิใจในการดูแลรักษาแหล่งท่องเที่ยว เมื่อเที่ยวด้วยกันจะเกิดพลังความสามัคคีและสายใยแห่งความผูกพัน ประการสุดท้าย เที่ยวด้วยความเข้าใจ จะเกิดการเรียนรู้รากเหง้าแห่งวัฒนธรรมและต่อยอดภูมิปัญญาไทยในเชิงสร้างสรรค์

ในส่วนการดำเนินงานด้านตลาดต่างประเทศ ในปี 2555 ททท. มุ่งเน้นความเป็น “Amazing Thailand : Always Amazes You” ของประเทศไทย และตั้งใจให้เกิดกระแส talk of the town โดยนำส่งประสบการณ์ที่น่าประทับใจผ่านการเล่าเรื่องในหนังสั้น “Hearing The Sunshine” บอกต่อลงบนโลกไซเบอร์ youtube ผนวกการใช้ Celebrity Marketing ด้วยกระแสละครทีวีไทย เพื่อขยายการรับรู้แบรนด์ประเทศไทยในตลาดจีน ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมากในขณะนี้ นอกจากนี้ ยังมีการจำลองเทศกาลเด่น (Outdoor Event) เช่น ลอยกระทง สงกรานต์ รวมทั้งจัดกิจกรรมแข่งขัน Game Online ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในประเทศไทยผ่านเกมหลากหลายรูปแบบ เช่น เกม Tuk Tuk Racing เกมส้มตำสุขใจ ซึ่งจะช่วยให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส เข้าถึง และเกิดจินตนาการมากขึ้น

ด้านส่งเสริมตลาด ททท. ให้ความสำคัญกับการใช้กลยุทธ์ดึงตลาดกลุ่มกระแสหลักที่มีศักยภาพในการจับจ่าย และนำความต้องการของแต่ละกลุ่มมาสร้างเรื่องราวเฉพาะ ซึ่งสามารถแบ่งได้ 4 กลุ่ม คือ กลุ่มครอบครัว กลุ่มคนวัยทำงานที่มีรายได้ดี (Gen X และ Gen Y) กลุ่มสตรี และกลุ่มผู้สูงวัย ในขณะเดียวกัน ททท. ยังมุ่งดำเนินการตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวกลุ่มความสนใจพิเศษ ประกอบด้วย กลุ่มแต่งงานและฮันนีมูน กลุ่มกอล์ฟ กลุ่มสุขภาพและความงาม กลุ่ม Ecotourism นอกจากนี้ ยังได้ใช้กลยุทธ์กระตุ้นการเดินทางซ้ำในกลุ่มลูกค้าเก่า ควบคู่กับการแสวงหาลูกค้าหน้าใหม่ โดยเฉพาะในตลาดตะวันออกกลาง ละตินอเมริกา และอินเดีย

นอกจากนี้ ยังจัดอบรมเชิงปฏิบัติการแก่พนักงานส่วนหน้าของคู่ค้าสำคัญในตลาดเอเชีย อเมริกา และตะวันออกกลาง โดยเชิญเข้าร่วมสัมมนา สำรวจสินค้า บริการในประเทศไทย เพื่อรู้จักและเข้าถึงประเทศไทย และเพิ่มประสิทธิภาพการขายมากขึ้น

การดำเนินงานด้านตลาดในประเทศ ในปี 2555 ททท. จะจัดกิจกรรมที่สอดรับกับกระแสความต้องการที่เข้าถึงจิตใจนักท่องเที่ยวชาวไทย ด้วยการนำเสนอคุณค่าของชีวิตเพื่อเพิ่มความผูกพันในครอบครัว และนำเสนอคุณค่าของความภูมิใจในการมีส่วนร่วมดูแลปกป้องสิ่งแวดล้อม ทำประโยชน์ต่อสังคม ตลอดจนสร้างกระแสการเรียนรู้ประเทศไทย ผ่านศิลปวัฒนธรรม ประเพณีพื้นถิ่น ให้เกิดการอนุรักษ์สู่อนุชนรุ่นหลัง ในขณะเดียวกัน ยังได้จัดกิจกรรมที่นำเสนอความแตกต่างของแต่ละภูมิภาค เพื่อให้เห็นคุณค่าเฉพาะของแต่ละพื้นที่

นอกจากนี้ ททท. ยังคงให้ความสำคัญในการร่วมดำเนินงานกับพันธมิตร เพื่อขยายช่องทางการขายให้คู่ค้า และมุ่งมั่นที่จะสร้างจิตสำนึกต่อการดูแลและปกป้องพื้นที่ท่องเที่ยว โดยในปี 2555 ได้เลือก เกาะสมุย ปาย เชียงคาน และน่าน เป็นพื้นที่นำร่อง โดยจัดกิจกรรมรณรงค์ให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว และให้นักท่องเที่ยวหันมาดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในพื้นที่ทั้ง 4 แหล่งดังกล่าว

พัทยาแกรนด์เซลล์ 2011 ลดทั้งเมืองสูงสุด 70%

เมืองพัทยา ดึงสายการบินแอร์เอเชีย ภาครัฐและเอกชน เปิดแคมเปญที่ทุกคนรอคอย PATTAYA GRAND SALE 2011 เที่ยวทั้งวัน ลดทั้งเมือง ลดกระหน่ำสูงสุด 70% ทั้งห้องพักโรงแรม สนามกอล์ฟ ร้านอาหาร แพคเกจสปาและหลากหลายกิจกรรมท่องเที่ยว ตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเที่ยวสุดคุ้มที่พัทยา ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน ด้านสายการบินแอร์เอเชียเชื่อมั่นช่วยดึงนักท่องเที่ยว เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางสู่พัทยาได้เต็มที่ ผ่านการประชาสัมพันธ์ข่าวสารทั้งสื่อบนเครื่องบิน และกิจกรรมร่วมสนุกสำหรับผู้โดยสาร

นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า พัทยาเป็นเมืองเศรษฐกิจท่องเที่ยวของไทย ที่เป็นตัวเลือกแรกๆ ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยจุดเด่นของพัทยาที่มีการเดินทางเชื่อมต่อที่สะดวกสบาย ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และมีกิจกรรมท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์และหลากหลาย สามารถตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ จึงทำให้ปีหนึ่งๆ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติแวะเวียนมาเที่ยวพัทยาต่อเนื่อง ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานอย่างดี

“แคมเปญ ‘PATTAYA GRAND SALE 2011’ เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่นักท่องเที่ยวทุกคนรอคอย เพราะสามารถเที่ยวพัทยาได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุดในรอบปี ไม่ว่าจะแบบเที่ยววันเดียว หรือการเที่ยวพักผ่อนระยะเวลานาน เพราะทุกโรงแรมหรือร้านค้าร้านอาหารต่างๆ ตั้งใจคืนกำไรนักท่องเที่ยว โดยลดสูงสุดถึง 70%” นายอิทธิพลกล่าว

ทั้งนี้โรงแรมและกิจกรรมท่องเที่ยวต่างๆ ของงานพัทยาแกรนด์เซลล์ปีนี้ จะเน้นส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีและเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวของพัทยา เช่น โรงแรมห้องพักที่หลากหลายสไตล์ กิจกรรมกีฬา แพคเกจสปา นวดไทย อาหารทะเลที่สดและอร่อย การช้อปปิ้งต่างๆ ที่ครบครัน เรียกว่ามาพัทยาที่เดียวเที่ยวคุ้มแน่นอน

โดย “PATTAYA GRAND SALE 2011” ปีนี้ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนอย่างดี ในการกระตุ้นการท่องเที่ยวของพัทยาให้ครึกครื้นคึกคัก ทั้งจังหวัดชลบุรี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก และสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา สมาคมผู้บริหารสนามกอล์ฟภาคตะวันออก ชมรมร้านอาหารเมืองพัทยา และชมรมแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้วตั้งแต่วันนี้จนถึงปลายเดือนกันยายน สามารถตรวจสอบข่าวสารความเคลื่อนไหว รวมทั้งส่วนลดโรงแรม ร้านค้าต่างๆ ได้แล้วที่ www.trip2pattaya.com

ด้านนายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า แอร์เอเชียตั้งใจสนับสนุนงานพัทยาแกรนด์เซลล์ 2011 เต็มที่ ด้วยเราเห็นว่าเมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความพร้อมมากที่สุด สามารถเดินทางเชื่อมต่อได้ง่ายจากกรุงเทพฯ โดยนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดินทางทางเครื่องบินมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก็สามารถเชื่อมต่อการเดินทางได้ง่ายๆ สู่พัทยา ด้วยรถยนต์ไม่ถึง 2 ชม. ทั้งนี้สายการบินแอร์เอเชียร่วมกับ บ.รถรุ่งเรือง จำกัด (Roong Reuang Coach Co.,Ltd) บริเวณชั้น 1 ให้บริการผู้โดยสารในราคาประหยัดด้วย โดยรถจะออกจากสนามบินทุกชั่วโมง เดินทางสู่พัทยาเหนือและหาดจอมเทียน

“ด้วยเส้นทางและเที่ยวบินที่หลากหลายของแอร์เอเชีย เราจะดึงนักเที่ยวจำนวนมากเข้ามาที่ประเทศไทย โดยเฉพาะที่สุวรรณภูมิ ทั้งนี้เรามีเสน่ห์ร่วมที่สำคัญคือความประหยัดคุ้มค่า เมื่อเดินทางกับแอร์เอเชีย นักท่องเที่ยวก็จะมีเงินไว้ใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวมากขึ้น และเมื่อจัดงานพัทยาแกรนด์เซลล์ 2011 ก็ยิ่งตอกย้ำความคุ้มค่า ซึ่งเป็นส่วนสำคัญทำให้นักท่องเที่ยวพักอยู่ที่ไทยนานขึ้น ช่วยสร้างรายได้ภาคการท่องเที่ยวให้กับประเทศในช่วงไตรมาสที่สามนี้”

เพื่อเป็นการสร้างสีสันให้กับงานพัทยาแกรนด์เซลล์ 2011 แอร์เอเชียจึงร่วมประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโฆษณาภายในเครื่องบินใหม่ของแอร์เอเชีย ซึ่งถือว่าตรงกลุ่มเป้าหมาย เพราะวันหนึ่งๆ จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติรับทราบข่าวสาร และสามารถตัดสินใจเดินทางเที่ยวพัทยาได้ง่ายๆ ทันที นอกจากนี้บนไฟท์การเดินทางของผู้โดยสารทั่วไปยังมีโอกาสร่วมสนุกกับเกมชิงรางวัลบนเครื่องแอร์เอเชียอีกด้วย โดยรางวัลต่างๆ เป็นแพคเกจโรงแรมที่พักที่พัทยา ซึ่งทุกๆ โรงแรมก็ให้การสนับสนุนอย่างดี ทั้งนี้กิจกรรมลุ้นรางวัลนานจนถึงเดือนกันยายน